The Next Trades (10-02-25)

อัพเดทความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น พันธบัตร ฟอเร็กซ์ ทอง นำ้มัน และ บิทคอยน์

โดย สมาคมนักวิเคราะห์ทางเทคนิค

กลยุทธ์การลงทุนแบบเฮดจ์ฟันด์ # 3: Trend-Following Hedge Funds: การควบคุมพลวัตของตลาดเพื่อผลกําไรเชิงกลยุทธ์

# 3 Trend-Following Hedge Funds: การควบคุมพลวัตของตลาดเพื่อผลกําไรเชิงกลยุทธ์

ในตลาดที่มีความผันผวนกลยุทธ์กองทุนป้องกันความเสี่ยง กองทุนเฮดจ์ฟันด์ตามแนวโน้มมักเรียกว่าที่ปรึกษาการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CTAs) โดดเด่นด้วยการใช้แนวทางที่เป็นระบบเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มตลาดที่แพร่หลาย กองทุนเหล่านี้ใช้แบบจําลองทางสถิติที่ซับซ้อนเพื่อระบุและติดตามแนวโน้มในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ รวมถึงหุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และบางครั้งสกุลเงิน ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตและแบบเรียลไทม์ CTAs มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดทั้งขึ้นและลง โดย พิจารณา ปัจจัยที่จะกระทบถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของตลาด

ภาพรวมของกลยุทธ์

Trend-following CTAs อิงจากการตัดสินใจลงทุนของพวกเขาบนสมมติฐานที่ว่าตลาดแสดงแนวโน้มที่สามารถคาดการณ์และทํากําไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์นี้ลดการพึ่งพาการตัดสินตามอัตวิสัยของผู้จัดการกองทุน โดยหันมาใช้ประโยชน์จากแบบจําลองอัลกอริทึมและการวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อระบุและติดตามแนวโน้มเหล่านี้ เป้าหมายหลักคือการเข้าสู่ตําแหน่งที่สอดคล้องกับแนวโน้มที่ระบุ รักษาไว้ตราบเท่าที่แนวโน้มยังคงมีอยู่และออกเมื่อเริ่มกลับตัว.

ตัวอย่างที่ประสบความสําเร็จ ของกองทุนที่ใช้ Trend-following Strategy:

Winton Group หนึ่งในกองทุนป้องกันความเสี่ยงตามแนวโน้มที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Winton Group ก่อตั้งโดย David Harding ในปี 1997 Winton ได้ใช้กลยุทธ์การติดตามแนวโน้มอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล วินตันจะวิเคราะห์ข้อมูลตลาดในอดีตจํานวนมากเพื่อตรวจจับรูปแบบและแนวโน้ม ทําให้กองทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่าจะ เข้าซื้อขายที่ราคาใด กระบวนการวิเคราะห์ที่เข้มงวดนี้ทําให้วินตันสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่หลากหลาย รักษาความยืดหยุ่นผ่านช่วงเวลาแห่งความผันผวน

ประโยชน์ของการกระจายความเสี่ยงตามแนวทางแนวโน้ม:

  1. การกระจายความเสี่ยง: ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท CTA ที่ ใช้กลยุทธ์ Trend-following สามารถลดความเสี่ยงที่ เกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาดในกลุ่มตลาด ได้ตลาดหนึ่งด้านได้

  2. แนวทางที่เป็นระบบ: การพึ่งพาแบบจําลองเชิงปริมาณให้กรอบการซื้อขายที่เป็นระบบและมีระเบียบวินัย ลดอคติทางอารมณ์และปรับปรุงความสอดคล้อง

  3. ศักยภาพในการทํากําไรในตลาดต่างๆ: การติดตามแนวโน้มช่วยให้มีโอกาสทํากําไรทั้งในตลาดขาขึ้นและตลาดลง เพิ่มโอกาสในการทํากําไรโดยไม่คํานึงถึงสภาพเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น

ความเสี่ยงและความท้าทาย ของการลงทุนโดยใช้ Trend-Following Strategy:

  1. การกลับตัวของตลาด: กลยุทธ์การติดตามแนวโน้มมีความอ่อนไหวต่อการกลับตัวของตลาดอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจนําไปสู่การสูญเสียที่สําคัญหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว

  2. การพึ่งพาข้อมูล: ความสําเร็จของ CTA ขึ้นอยู่กับความแม่นยําและความแข็งแกร่งของแบบจําลองการวิเคราะห์และชุดข้อมูลที่ใช้อย่างมาก ซึ่งจําเป็นต้องมีการลงทุนทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

  3. ความไวต่อความผันผวน: ในขณะที่ CTA สามารถ ทำผลงานได้ดีในตลาดที่ผันผวน แต่ความผันผวนที่รุนแรงก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้เช่นกัน ส่งผลให้มีผลตอบแทนที่คาดเดาไม่ได้

ข้อสรุป กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ติดตามแนวโน้ม ผ่านแนวทางที่เป็นระบบและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ให้กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจสําหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของตลาด ในขณะ เดียวกันสามารถ กระจายความเสี่ยงและ สร้างผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะตลาดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตามการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวยังมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการกลับตัวของตลาดและการพึ่งพาข้อมูล นักลงทุนที่พิจารณา CTA ควรตรวจสอบความเข้าใจที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงเพื่อสํารวจภูมิทัศน์การลงทุนที่ซับซ้อนแต่คุ้มค่านี้

เราจะอธิบายถึง กลยุทธ์การลงทุนของเฮดจ์ฟันด์ #4 Relative Value Trading Strategy อย่างละเอียด ต่อไปในบทความหน้า

Next
Next

The Next Trades (07-02-25)